ถอดบทเรียนคดีคาราโอเกะ รู้ไว้ก่อนเปิดร้าน ก่อนโดนปรับแสน

#เรื่องเล่าจากคดีแดง ตอน ถอดบทเรียนคดีคาราโอเกะ รู้ไว้ก่อนเปิดร้าน ก่อนโดนปรับแสน

ลุงสมพงษ์เปิดร้านคาราโอเกะชื่อ “สมพงษ์คาราโอเกะ” อยู่ในชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่ง ร้านของลุงสมพงษ์เป็นที่รู้จักกันดีในละแวกนั้น เพราะบรรยากาศดี อาหารอร่อย และที่สำคัญคือมีห้องคาราโอเกะให้ลูกค้าได้ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน

วันหนึ่ง มีหนุ่มสองคนชื่อสิทธิโชคกับมานิตย์เดินเข้ามาในร้าน พวกเขาบอกว่าอยากจะร้องเพลงคาราโอเกะ พนักงานสาวของลุงสมพงษ์ก็พาพวกเขาเข้าไปในห้องคาราโอเกะ ช่วยเปิดเครื่อง แกะสายไมค์ให้ แล้วก็ออกไป

สิทธิโชคกับมานิตย์สังเกตเห็นว่าในห้องมีทีวีจอใหญ่ มีคอมพิวเตอร์ มีลำโพง มีไมค์ ครบครันทุกอย่าง พวกเขาเริ่มเปิดเพลงร้อง เห็นทั้งภาพมิวสิควิดีโอ เนื้อเพลง วิ่งบนจอทีวี พวกเขาร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน

แต่ความจริงแล้ว สิทธิโชคกับมานิตย์ไม่ใช่ลูกค้าธรรมดา พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพลงใหญ่แห่งหนึ่ง ที่มาตรวจสอบว่าร้านของลุงสมพงษ์ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงหรือไม่ หลังจากร้องเพลงเสร็จ พวกเขาก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วก็กลับออกไป

ผ่านไปสักพัก วันหนึ่งตำรวจก็มาเคาะประตูบ้านลุงสมพงษ์ บอกว่ามีคนมาแจ้งความว่าร้านของลุงสมพงษ์ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และเปิดร้านคาราโอเกะโดยไม่มีใบอนุญาต

ลุงสมพงษ์ตกใจมาก บอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่เคยคิดจะละเมิดลิขสิทธิ์ใคร แค่เปิดร้านให้คนมาร้องเพลงสนุกๆ กันเท่านั้น ส่วนเรื่องใบอนุญาตก็ไม่รู้ว่าต้องขอด้วย

คดีนี้ขึ้นสู่ศาล โจทก์ฟ้องว่าลุงสมพงษ์ทำผิดสองข้อหา คือละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และเปิดร้านคาราโอเกะโดยไม่มีใบอนุญาต ศาลชั้นต้นตัดสินว่าลุงสมพงศ์ผิดทั้งสองข้อหา ให้ปรับเงิน 200,000 บาท ลุงสมพงษ์ไม่ยอมอุทธรณ์ต่อ

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าลุงสมพงษ์ละเมิดลิขสิทธิ์ จึงยกฟ้องในข้อนี้ แต่เรื่องไม่มีใบอนุญาตเปิดร้านคาราโอเกะ ศาลอุทธรณ์ก็ยกฟ้องด้วย โดยบอกว่ายังไม่แน่ใจว่าร้านของลุงสมพงษ์เข้าข่ายต้องขอใบอนุญาตหรือไม่

ทางโจทก์ไม่พอใจ จึงยื่นฎีกาต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า จากหลักฐานที่สิทธิโชคกับมานิตย์เก็บมา ทั้งภาพถ่าย วิดีโอ คำให้การ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าร้านของลุงสมพงษ์ให้บริการคาราโอเกะที่มีทั้งภาพและเสียง ไม่ใช่แค่เปิดเพลงให้ร้องเฉยๆ

ศาลฎีกาจึงตัดสินว่า ร้านของลุงสมพงษ์เข้าข่ายเป็นร้านวีดิทัศน์ตามกฎหมาย ซึ่งต้องขอใบอนุญาตก่อนเปิดให้บริการ เมื่อลุงสมพงษ์ไม่ได้ขอใบอนุญาต จึงมีความผิด ศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ลุงสมพงษ์มีความผิดฐานเปิดร้านวีดิทัศน์โดยไม่มีใบอนุญาต ปรับเงิน 100,000 บาท

ลุงสมพงษ์ได้แต่ถอนหายใจ นึกเสียดายที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายพวกนี้มาก่อน ถ้ารู้ก็คงขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาเสียเงินค่าปรับแพงๆ แบบนี้

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำธุรกิจอะไรก็ตาม เราควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อน จะได้ทำให้ถูกต้อง ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังเหมือนลุงสมพงษ์ครับ

 16,196 ผู้เข้าชมเว็บไซต์,  17 views today