รับว่าความ
1.รับเป็นทนายว่าความ (เป็นทนายโจทก์หรือจำเลย) ในคดีแพ่ง
2.รับเป็นทนายว่าความ (เป็นทนายโจทก์หรือจำเลย) ในคดีอาญา
3.รับเป็นทนายว่าความในคดีพิเศษ
สอบถามค่าบริการ (คลิก)
ขอบเขตการทำงาน มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร :
1.รับว่าความในฐานะทนายโจทก์ (คนฟ้อง)
1.1. ลูกค้าติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อปรึกษาเบื้องต้นว่าจะฟ้องลูกหนี้อย่างไร หลังจากพูดคุยกันแล้ว จึงจะติดต่อทางไลน์ หรือทาง Email เพื่อทนายจะได้ตรวจสอบดูเอกสารเบื้องต้นก่อน
1.2 ลูกค้าส่งข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับคดีที่ต้องการให้เราฟ้องมาทั้งหมด เช่น สัญญาซื้อขาย (ถ้ามี) ใบส่งสินค้า ใบวางบิล สัญญาเงินกู้ สัญญาจ้างต่างๆ (ถ้ามี) พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนลูกหนี้ (ถ้ามี) หลักฐานการโอนเงิน หรือเอกสารที่แสดงว่าลูกหนี้ผิดนัด ผิดสัญญา หรือหลักฐานการโต้แย้งสิทธิของลูกค้า เป็นต้น
1.3. เราจัดพิมพ์เอกสารหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี (สำหรับลูกค้าไม่ต้องการไปศาลเองสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทนได้) จำนวน 1 ฉบับ, ใบแต่งทนายความ จำนวน 1 ฉบับ, สำเนาบัตรประชาชนลูกค้า และสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจของลูกค้า (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ, หนังสือรับรองบริษัท (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ และสัญญาจ้างว่าความ จำนวน 1 ฉบับ ให้ลูกค้าเซ็นชื่อ (เราจัดส่งไปรษณีย์ เซ็นและส่งกลับ หรือลูกค้ามาเซ็นเอกสารที่บริษัท) ใช้เวลาจัดพิมพ์เอกสาร ประมาณ 1-2 วันทำการ นับแต่วันที่ลูกค้าได้ส่งข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับคดีที่ต้องการให้เราฟ้อง ตามข้อ 1.2 และลูกค้าต้องจัดส่งเอกสารดังกล่าวทั้งหมด และเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกค้าต้องการให้เราฟ้องมาด้วย)
1.4 เมื่อเราได้รับเอกสารตามข้อ 1.3 แล้ว จะดำเนินการออกหนังสือบอกกล่าวทวงถาม โดยให้กำหนดเวลาลูกหนี้ชำระหนี้ภายใน 7-15 วัน นับแต่วันที่ลงในเอกสาร จัดส่งไปให้ลูกหนี้ตามที่อยู่ตามบัตรประชาชนลูกหนี้ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ (ใช้เป็นหลักฐานทางศาล) ซึ่งก่อนส่งเราจะส่งให้ลูกค้าได้อ่านและตรวจสอบก่อน
1.4.1 กรณีลูกหนี้ติดต่อกลับมา เราจะเจรจากับลูกหนี้ให้ชำระหนี้หรือผ่อนชำระหนี้ โดยต้องรายงานให้ลูกค้าทราบก่อน
1.4.2 กรณีลูกหนี้ไม่ติดต่อกลับมา เมื่อพ้นกำหนดตามหนังสือบอกกล่าวทวงถาม หากลูกหนี้เพิกเฉยก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
1.5 เมื่อเราได้รับใบตอบรับที่จัดส่งโดยไปรษณีย์ตอบกลับมาแล้ว เราจะทำการร่างคำฟ้อง โดยใช้เวลาประมาณ 3-7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับใบตอบรับดังกล่าว ซึ่งก่อนฟ้อง เราจะส่งคำฟ้องให้ลูกค้าได้อ่านและตรวจสอบก่อน
1.6 ยื่นฟ้องต่อศาลในเขตอำนาจ
1.7 แจ้งกำหนดนัดวันนัดของศาล (ศาลจะกำหนดวันนัด โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน นับแต่วันยื่นฟ้อง
1.8 หลังจากฟ้องศาล ตามข้อ 1.6 แล้ว เราจัดส่งไฟล์คำฟ้อง (pdf) ให้ลูกค้าทางไลน์ หรือ Email
1.9 ไปศาลตามกำหนดนัด พร้อมกับลูกค้า
1.10 รายงานผลคดีให้ลูกค้าทราบ เดือนละ 1 ครั้ง
1.11 สืบพยานฝ่ายโจทก์ สืบพยานฝ่ายจำเลย ประนีประนอมยอมความ (ถ้ามี) และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา
2.รับว่าความในฐานะทนายจำเลย (คนถูกฟ้อง) ในศาลชั้นต้น
2.1 ลูกค้าติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อปรึกษาเบื้องต้นว่าถูกโจทก์หรือเจ้าหนี้ฟ้องว่าอย่างไร หลังจากพูดคุยกันแล้ว จึงจะติดต่อทางไลน์ หรือทาง Email เพื่อทนายจะได้ตรวจสอบดูเอกสารเบื้องต้นก่อน
2.2 ลูกค้าส่งคำฟ้องโจทก์มาให้เรา พร้อมกับเอกสารที่แสดงว่าแสดงว่าฟ้องโจทก์ไม่ถูกต้องอย่างไร หรือมีหลักฐานการโต้แย้งคำฟ้องโจทก์หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งในคำฟ้องจะกำหนดวันไปขึ้นศาลไว้แล้ว
2.3 เราจัดพิมพ์เอกสารหนังสือมอบอำนาจให้ยื่นคำให้การ (สำหรับลูกค้าไม่ต้องการไปศาลเองสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทนได้) จำนวน 1 ฉบับ, ใบแต่งทนายความ จำนวน 1 ฉบับ, สำเนาบัตรประชาชนลูกค้า และสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจของลูกค้า (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ, หนังสือรับรองบริษัท (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ และสัญญาจ้างว่าความ จำนวน 1 ฉบับ ให้ลูกค้าเซ็นชื่อ (เราจัดส่งไปรษณีย์ เซ็นและส่งกลับ หรือลูกค้ามาเซ็นเอกสารที่บริษัท) ใช้เวลาจัดพิมพ์เอกสาร ประมาณ 1-2 วันทำการ นับแต่วันที่ลูกค้าได้ส่งเอกสารดังกล่าวทั้งหมด และเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกค้าต้องการให้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีมาด้วย)
2.4 เมื่อเราได้รับเอกสารตามข้อ 2.3 แล้ว จะดำเนินการร่างคำให้การ โดยใช้เวลาประมาณ 3-7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับเอกสารดังกล่าว เราจะส่งคำให้การให้ลูกค้าได้อ่านและตรวจสอบก่อน
2.5 ยื่นคำให้การต่อศาลที่โจทก์ฟ้องภายในกำหนด
2.6 หลังจากยื่นคำให้การ ตามข้อ 2.5 แล้ว เราจัดส่งไฟล์คำฟ้อง (pdf) ให้ลูกค้าทางไลน์ หรือ Email
2.7 ไปศาลตามกำหนดนัด พร้อมกับลูกค้า
2.8 รายงานผลคดีให้ลูกค้าทราบ เดือนละ 1 ครั้ง
2.9 สืบพยานฝ่ายโจทก์ สืบพยานฝ่ายจำเลย ประนีประนอมยอมความ (ถ้ามี) และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา
3.รับว่าความในฐานะทนายโจทก์หรือจำเลย ในศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว หากคู่ความฝ่ายใดไม่พอใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์หรือฎีกาต่อศาลฎีกาแล้วแต่กรณีได้ แต่ต้องยื่นคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา (หากไม่ทันสามารถขยายระยะเวลาดังกล่าวได้คราวละ 1 เดือน) มีรายละเอียดดังนี้
3.1 ลูกค้าติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อปรึกษาเบื้องต้นว่าจะทำคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาอย่างไร หลังจากพูดคุยกันแล้ว จึงจะติดต่อทางไลน์ หรือทาง Email เพื่อทนายจะได้ตรวจสอบดูเอกสารเบื้องต้นก่อน
3.2 ลูกค้าส่งคำฟ้องอุทธรณ์หรือคำฟ้องฎีกามาให้เรา พร้อมกับเอกสารที่แสดงว่าแสดงว่าคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาโจทก์ไม่ถูกต้องอย่างไร หรือมีหลักฐานการโต้แย้งด้วยหรือไม่ เป็นต้น
3.3 เราจัดพิมพ์เอกสารหนังสือมอบอำนาจให้ทำคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา (สำหรับลูกค้าไม่ต้องการไปศาลเองสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทนได้) จำนวน 1 ฉบับ, ใบแต่งทนายความ จำนวน 1 ฉบับ, สำเนาบัตรประชาชนลูกค้า และสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจของลูกค้า (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ, หนังสือรับรองบริษัท (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ และสัญญาจ้างว่าความ จำนวน 1 ฉบับ ให้ลูกค้าเซ็นชื่อ (เราจัดส่งไปรษณีย์ เซ็นและส่งกลับ หรือลูกค้ามาเซ็นเอกสารที่บริษัท) ใช้เวลาจัดพิมพ์เอกสาร ประมาณ 1-2 วันทำการ นับแต่วันที่ลูกค้าได้ส่งเอกสารดังกล่าวทั้งหมด และเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกค้าต้องการให้ยื่นคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกามาด้วย)
3.4 เมื่อเราได้รับเอกสารตามข้อ 3.3 แล้ว จะดำเนินการร่างคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา โดยใช้เวลาประมาณ 3-7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับเอกสารดังกล่าว เราจะส่งคำให้การให้ลูกค้าได้อ่านและตรวจสอบก่อน
3.5 ยื่นคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา ต่อศาลภายในกำหนด
3.6 หลังจากยื่นคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา ตามข้อ 3.5 แล้ว เราจัดส่งไฟล์คำฟ้อง (pdf) ให้ลูกค้าทางไลน์ หรือ Email
3.7 ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาแล้วแต่กรณี พิจารณาคดีอยู่ (ไม่ต้องไปศาล) ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี โดยประมาณ เมื่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาพิจารณาคดีเสร็จแล้ว ศาลจะมีหนังสือแจ้งวันนัดให้คู่ความในคดีมาฟังคำพิพากษาดังกล่าวต่อไป
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้บริการนี้ :
สำเนาคำฟ้อง (pdf) หรือสำเนาคำให้การ (pdf) หรือสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา (pdf) แล้วแต่กรณี
ระยะเวลาดำเนินงาน (กี่วัน) :
ปกติใช้เวลาประมาณ 1-6 เดือน นับแต่วันฟ้องจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา (อยู่ที่ศาลกำหนัดนัด)
หลักฐานการส่งมอบงาน : สำเนาคำฟ้อง (pdf)
142,856 ผู้เข้าชมเว็บไซต์, 2 views today